Sleep with Bee free Wi-Fi [CrisBee] - Sleep with Bee free Wi-Fi [CrisBee] นิยาย Sleep with Bee free Wi-Fi [CrisBee] : Dek-D.com - Writer

    Sleep with Bee free Wi-Fi [CrisBee]

    วันหยุดน่าเบื่อ ไวไฟเสีย และผู้หญิงในชุดเดรสดำ #คริสบีฟรีไวไฟ

    ผู้เข้าชมรวม

    4,879

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    4.87K

    ความคิดเห็น


    51

    คนติดตาม


    251
    หมวด :  แฟนฟิคไทย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 มิ.ย. 59 / 19:48 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น





    CrisBee









    kiss me hard before you go








    Celine H.







    Namthip J.







    "อยากรู้จักชื่อฉันหรอคะ...จูบฉันสิ"




    #คริสบีฟรีไวไฟ



    PS:ไม่ต้องแปะเมลล์นะคะ :P
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




      Sleep with bee free Wi-Fi






      Celine x Namthip






      วันนี้วันเสาร์

      วันที่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆอย่างเธอควรจะได้พักผ่อนหลังจากทนกับสัปดาห์นรกแตกมาตลอดห้าวัน


       


           บี-น้ำทิพย์ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงแม้นาฬิกาจะบอกเวลาบ่ายสองโมงกว่า มันผ่านไปเกินครึ่งวัน แต่บีก็ยังใช้ห้านาทีหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาไปกับการบิดขี้เกียจและขยี้ตาให้หายง่วง ก่อนจะพาร่างสูงกว่า178เซนติเมตรของตัวเองเดินเอื่อยๆไปยังอ่างล้างหน้า วักน้ำขึ้นมาแล้วลูบหน้าช้าๆอย่างไม่รีบร้อนนักเธอไม่มีเหตุผลที่จะต้องรีบ


       

      คิดเอาไว้ว่าวันนี้จะนอนตากแอร์เล่นเกมทั้งวัน


       

      บีในวัยสามสิบต้นๆกับชีวิตประจำวันที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าตื่นนอน-กิน-และทำงาน สังสรรค์กับเพื่อนบ้างบางเวลาเท่าที่มีโอกาส แต่ก็มักไม่ค่อยได้รับโอกาสนั้นเท่าไหร่นักตราบใดที่งานกองโตบนโต๊ะยังเคลียร์ไม่หมด มันเยอะ...จนบางทีบีก็สงสัยว่าหัวหน้าฝ่ายเจาะจงให้งานเธอแค่คนเดียวหรือเปล่า?

       

      แต่ครั้งนี้เป็นอาทิตย์แรกที่บีเคลียร์งานได้หมดและไม่ต้องเอากลับมาทำที่คอนโดแบบทุกครั้ง นั่นเท่ากับว่ามีเวลาว่างสองวันสำหรับพัก ก่อนที่จะต้องกลับไปเริ่มสัปดาห์การทำงานใหม่อีกครั้งในวันจันทร์


           บีเดินออกมานั่งที่โซฟาจริงๆควรใช้คำว่ากระโดดขึ้นไปนั่ง พลางหยิบโน๊ตบุ๊คลูกรักขึ้นเปิด เคาะแป้นเล่นอยู่ซักพักหน้าจอก็สว่างวาบ รอให้เครื่องเซ็ตตัวซักพักแล้วจึงลากเม้าส์คลิ๊กเข้าต่อรหัสไวไฟ มือบางรัวแป้นพิมพ์รหัสอย่างไว


      แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นมากลับไม่ตรงตามที่คิดเท่าไหร่นัก


           ‘there is no internet connection’


      พร้อมกับรูปไดโนเสาร์ขาวดำโง่ๆตัวหนึ่งหลังจากบีเปิดหน้าchrome


      เจ้าของโน๊ตบุ๊คขมวดคิ้วแล้วคลิกเข้าไปตั้งค่าใหม่ซ้ำๆอยู่หลายครั้ง ดูเหมือนมันจะไม่เป็นผล เงยหน้ามองกล่องสัญญาณที่ติดไว้ตั้งแต่ย้ายมาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยอารมณ์หงุดหงิด

       

           ตัดใจเดินออกไปสงบสตินอกระเบียงก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นกดเบอร์ประชาสัมพันธ์ให้เรียกช่าง อาจจะเป็นคราวเคราะห์ร้ายของเธอเมื่อปลายสายตอบรับกลับมาว่าสามารถมาซ่อมให้ได้ไวสุดคือเย็นวันพรุ่งนี้


      เท่ากับว่าตลอดวันหยุดพักผ่อนของเธอจะไม่มีเน็ตให้ใช้

      โอ้ย อยากจะบ้าตาย...


      บีวางสายจากช่างด้วยอารมณ์หัวร้อนเต็มที แขนยาวๆเท้าเข้ากับรั้วกั้นระเบียงพลางทอดสายตามองวิวเมืองกรุงจากมุมสูงเรื่อยเปื่อยแก้เซ็ง จนกระทั่งเผลอเหลือบไปมองริมระเบียงโล่งๆฝุ่นจับของห้องด้านข้างที่อยู่ติดกัน


           แว่บหนึ่งที่เธอคิดอยากจะเดินไปเคาะประตูห้องข้างๆแล้วขอรหัสไวไฟเขามาใช้

           แต่ก็คงจะนก


      บีส่ายหัวเมื่อพยายามนึกถึงความทรงจำน้อยนิดเกี่ยวกับคนห้องข้างกัน ราวกับมันเป็นห้องร้างไร้ซึ่งคนอยู่ แม้จะอยู่คอนโดนี้มาเกือบหกเดือน แต่เธอก็แทบจะไม่เห็นหรือไม่ได้ทำความรู้จักกับหล่อนเลยซักครั้ง          



           —ผู้หญิงกลางคืน    บีแอบตั้งฉายานี้ให้ตามข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่รู้มา


      หนึ่งคือหล่อนเป็นผู้หญิง

      และสองคือหล่อนทำงานกลางคืน


       

      ส่วนมากเรามักจะคลาดกันในตอนเช้าที่บีออกไปทำงาน และหล่อนเพิ่งกลับมาจากทำงานเสร็จ แม้จะไม่รู้ว่างานกลางคืนที่ว่านั้นคืออะไร แต่บีมักจะได้เห็นแค่แผ่นหลังเนียนสวยและผมสีน้ำตาลประบ่าของหล่อนยามเปิดประตูเข้าห้องไป หรือจะให้พูดตามตรงก็คือไม่เคยเห็นหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว


           ละสายตาจากระเบียงร้างๆของห้องติดกันกลับมาโฟกัสที่เรื่องตัวเองต่อ บีเม้มปากอย่างชั่งใจ อยากจะชวนเพื่อนและพี่ไปปาร์ตี้ แต่ไม่ว่าจะโทรหาซักกี่คน สิ่งที่ได้รับมาส่วนใหญ่กลับเป็น ไม่ว่าง..อยู่กับแฟนหรือหนักหน่อยก็ เลี้ยงลูกอยู่ ขอโทษนะ

       

      โอเค ยอมแพ้

      แต่เธอไม่มีทั้งแฟนและลูกไม่มีแม้แต่คนไปปาร์ตี้ด้วยกัน ให้ตายเถอะ

       

      บีกรอกตา ก้มลงมองนาฬิกาในโทรศัพท์ เวลาเริ่มเย็นลงไปทุกที เลยพาขายาวๆกลับเข้ามาในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงโซฟากดโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย เข้าไปเล่นมันทุกเกมเท่าที่จะมีในเครื่อง

       

           นั่งเล่นไปซักพักถึงได้รู้สึกว่ามันน่าเบื่อ

       

      แค่อยากหาอะไรสนุกๆทำในวันหยุดที่นานๆจะได้รับทีนึง

      ในเมื่อไม่มีคนไปด้วย


      งั้น...ไปคนเดียวก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร

       





           บีมาถึงผับย่านทองหล่อในเวลาทุ่มกว่า สภาพจราจรในกรุงเทพยังคงติดหนึบเหมือนเดิมแม้เป็นเย็นวันเสาร์ ร่างสูงโปร่งราวกับนางแบบในชั้นในสีดำคลุมทับด้วยเชิ้ตขาวตัวโคร่งและกางเกงยีนส์ขาสั้นล่อตาล่อใจพอสมควร แม้บีจะรู้สึกว่าชุดมันธรรมดานิดหน่อยด้วยเพราะในตู้มีอยู่แค่นั้น แต่ความธรรมดาของชุดและสีหน้าเรียบนิ่งไม่รับแขกของเธอกลับดึงดูดความสนใจผู้คนในผับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามา

       

      อาจจะเพราะหน้าตาคมสวย สันจมูกโด่ง และกระน้อยๆบนใบหน้า รวมถึงรูปร่างเพรียวยาวที่ทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจ เคยโดนรุ่นพี่ที่ทำงานทักอยู่บ่อยว่าเป็นดารา หรือไม่ก็เคยเดินแบบหรือเปล่า

       

      แน่นอนว่าไม่เคย

       

      บีเป็นคนธรรมดา และใช้ชีวิตธรรมดามาตลอดสามสิบกว่าปี มีบ้างในบางช่วงชีวิตที่มีใครซักคนผ่านเข้ามาให้ความสุขกับเธอ ที่ส่วนมากมักจะกลายเป็นความทุกข์ในเวลาต่อมา


      อาจจะเพราะฝังใจกับอดีตแย่ๆบีเลยไม่ชอบผู้ชาย

       

      ไม่ถึงกับเกลียด เพียงแต่ไม่ชอบสายตาราวกับจะกลืนกินเหมือนที่กำลังโดนมองอยู่ตั้งแต่เดินจากทางเข้ามาถึงเค้าท์เตอร์ เธอเลยทำได้แค่เพียงถอนหายใจ สั่งเครื่องดื่มประจำแล้วก้าวเท้ายาวๆเดินขึ้นไปโซนVIPชั้นลอยบนสุดของร้านอย่างเร็วที่สุด

       

      โชคดีที่เจ้าของที่นี่เป็นเพื่อนของเพื่อนเธออีกทีหนึ่งแม้จะไม่รู้จักกันโดยส่วนตัว โซนวีไอพีค่อนข้างสงบกว่าข้างล่าง บีเลยสามารถใช้เวลาอยู่เงียบๆกับตัวเองได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าจะมีสายตาแปลกๆจ้องมองมา 




           บีเท้าคางกับระเบียงเหมือนที่ชอบทำ ยืนมองภาพผู้คนสนุกกับเสียงเพลง กลางฟลอร์มีทั้งหญิงสาวและชายหนุ่มหลายคู่ขยับร่างกายโชว์ลีลาปลดปล่อยอย่างสุดเหวี่ยง หากกรุงเทพคือเมืองที่ไม่เคยหลับดูเหมือนผู้คนก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน

       

      มัวแต่เพลิดเพลินอยู่กับภาพด้านล่างโดยไม่ได้สนใจรอบข้าง จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงแรงสะกิดเบาๆที่ไหล่ถึงได้หันไปมอง หญิงสาวในชุดเดรสสายเดี่ยวดำสั้นกุดกำลังส่งยิ้มบางมาให้เธอ ในมือมีไวน์แดงที่ถูกดื่มไปเพียงครึ่งแก้วอยู่ หล่อนหน้าแดงนิดๆแต่ก็ยังดูมีสติดี

       

      ไม่ลงไปเต้นกับคนอื่นเขาล่ะคะ?” หล่อนถามคิดว่าหล่อนคงถามเธอเพราะชั้นบนไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเราสองคน


      ไม่ล่ะค่ะ ฉันชอบอยู่เงียบๆเหนือความวุ่นวายแบบนี้มากกว่า บีหัวเราะแล้วกล่าวติดตลก รู้สึกเหมือนชนะทุกคน


      หล่อนอมยิ้มน้อยๆตอบกลับพลางเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ทั้งสองยืนอยู่ข้างกันท่ามกลางความโล่งว่างของพื้นที่แต่บีกลับไม่ได้อึดอัดแม้อีกฝ่ายเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบเจอ ตรงกันข้าม ดูท่าจะดีเหมือนกัน อย่างน้อยมันก็ไม่น่าเบื่อ


      มาคนเดียวหรอคะ?”


      ค่ะ ชวนแล้วไม่มีใครว่างเลยบีว่าพลางยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มที่จริงก็อยากนอนอยู่คอนโดมากกว่า แต่ไวไฟเสียน่ะค่ะ กว่าจะซ่อมเสร็จก็คงพรุ่งนี้ อยู่เฉยๆมันน่าเบื่อฉันเลยออกมาหาอะไรทำ


      ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณไหม รบกวนไปรึเปล่าคะ


      ไม่เลยค่ะ ฉันยินดีเธอยิ้มหวาน และอาจจะเริ่มหวานเยิ้มขึ้นเรื่อยๆจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์ บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆพร้อมกับความใกล้ชิดที่มากขึ้น แอลกอฮอลล์เป็นสื่อกลางช่วยให้เธอและหล่อนคุยกันได้อย่างถูกคอ บีเริ่มเมาเมื่อเข้าสู่แก้วที่สาม และอีกฝ่ายกระดกลงคอเป็นแก้วที่สี่


      คุยกันมาตั้งนานยังไม่รู้จักชื่อเลย ฉันบีนะคะ คุณ..?” เว้นจังหวะให้อีกคนแนะนำตัว แต่หญิงสาวกลับเอาแต่ปิดปากเงียบ ริมฝีปากสีแดงเชอร์รี่ยกยิ้มขึ้นน้อยๆ หล่อนวางแก้วลงกับโต๊ะแล้ววาดแขนคล้องคอเธอ เขย่งปลายเท้าขึ้นกระซิบข้างๆหูด้วยเสียงแหบเสน่ห์ของเจ้าตัว 


           อยากรู้จักชื่อฉันหรอคะ...จูบฉันสิ


      บีเกือบจะสร่างเมายามฟังประโยคนั้นจบ ตาคมลอบมองหน้าหล่อนอย่างชั่งใจ ใบหน้าขาวเนียนออกไปทางเชื้อสายจีน แก้มหล่อนเริ่มแดงพอๆกับปากบีคิดว่าคนตรงหน้าคงจะดื่มมากไปถึงได้พูดแบบนั้น


      ฉันว่าคุณเมาแล้วล่ะ


      ไม่ปฏิเสธค่ะ แต่คุณเองก็เมา ฉันรู้หญิงสาวสวนกลับก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงลมหายใจกันและกัน ยิ่งบีเบือนหน้าหนี หล่อนยิ่งยึดคอเขาไว้แน่นขึ้นเท่านั้น ก็แค่ลองดู ไม่เห็นยากเลยนี่คะ...หรือคุณไม่เคยจูบ?”


      บีเม้มปาก แต่ก็ยังตอบไปตามตรง ไม่เคยค่ะ


      ดีค่ะ งั้นฉันสอนคุณเองจูบสิ


      คุณพูดเองนะบีสูดหายใจลึก อาจจะเพราะแอลกอฮอลล์ที่มีอยู่ในตัวทำให้ความกล้าสูงเกินขีดปกติ เธอจับไหล่บางไว้ ประกบปากตัวเองลงกับปากอีกคนอย่างไวแล้วถอนออก



           มันเป็นแค่ปากสัมผัสกัน หล่อนยังไม่พอใจ



      พอรึยั....อื้อ!”


      หญิงสาวเป็นฝ่ายดึงรึมฝีปากบางชมพูตรงหน้าเข้ามาประกบใหม่อีกรอบ พลางขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ อืม..ไม่พอจูบย้ำซ้ำๆอยู่แบบนั้นไม่ปล่อยให้อีกคนได้หายใจ กลิ่นและรสไวน์อ่อนๆเจือจางในรสจูบ จากหวานเนิบแผ่วเบาเริ่มร้อนไปด้วยอารมณ์ที่ประทุ มันร้อนแรงและอันตราย หล่อนผละออกมาในวินาทีสุดท้ายที่รู้สึกว่าร้อนจนทนไม่ไหว

       

      ต่างฝ่ายต่างหอบเหนื่อยพอกัน ริมฝีปากเปื้อนไปด้วยลิปสติกสีเข้ม เหงื่อผุดซึมตามร่างกายทั้งที่แอร์ในร้านเปิดอุณหภูมิต่ำจนควรจะหนาว ทั้งสองทำเพียงแค่จ้องหน้ากัน

       

      คริสค่ะร่างเล็กในเดรสดำเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบปนเสียงหอบ ฉันชื่อคริส


      บอกฉันทำไมคะ


      ฉันบอกคุณตามสัญญา


      ที่ฉันถามชื่อคุณน่ะหรือ


      ค่ะ เผื่อว่าคุณจะอยากรู้จักฉัน


      อร่อยดีนะคะบีพูดยิ้มๆพลางยกนิ้วเกลี่ยรอยเปื้อนตรงริมฝีปากออก ฉันหมายถึงไวน์จากปากคุณ


      คริสเพียงแค่ยิ้มมุมปากตอบกลับมา


      อืมม แล้วถ้าฉันอยากรู้เพิ่มอีกเธอยกไวน์ที่เหลืออยู่ขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ฉันต้องจูบคุณอีกกี่ครั้งคะ?”


      คริสหัวเราะในลำคอหลังจากจบประโยค ก่อนจะดันตัวบีถอยหลังไปให้แนบกับกำแพง หล่อนค้ำมือไว้ไม่ให้หนีไปไหน แล้วเลื่อนหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ..จนกว่าคุณจะพอใจค่ะ..


      งั้นคุณสอนฉันเองเลยจูบสิบีย้อนประโยคก่อนหน้าซ้ำเพียงแต่เปลี่ยนคนพูดใหม่ อีกฝ่ายอมยิ้ม เธอเองก็อมยิ้ม เรายิ้มให้กันตามด้วยริมฝีปากที่สัมผัสกันอย่างเชื่องช้าอีกครั้ง


      ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคริสบอก ทั้งที่จมูกยังคลอเคลียอยู่กับซอกคอขาวๆของอีกคน ขอรู้จักมากกว่านี้จะอนุญาตไหม...คุณบี


      ที่ห้องฉันได้มั้ยคะ อืม..ที่นี่โจ่งแจ้ง อ๊ะ ก..เกินไป อย่ากัดสิคุณคริส!” แหวใส่อย่างไม่จริงจังนักเมื่อคนตัวเล็กกว่าฝังเขี้ยวลงมาริมๆซอกคออย่างแรง คริสยอมผละออก แต่รอยแดงยังคงอยู่


      แน่ใจแล้วหรอคะ กับคนที่ไม่เคยมีจูบแรกอย่างคุณ


      ก็คุณไงคะจูบแรกของฉันสายตาบีวูบไหวอยู่แว่บหนึ่ง แต่เธอยังเอ่ยต่อ ให้พูดตามตรง ฉันถูกใจคุณ และไม่รู้ว่าคุณคิดเหมือนกันไหม แต่ถ้ามันไม่โอเคคุณจะถือว่ามันเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ก็ได้


      แม้ว่าในความเป็นจริงคุณอาจจะแค่อยากลอง?”


      ไม่รู้สิคะ ก็อาจจะแบบนั้น ต่อให้ดูจะเร็วไปหน่อยก็เถอะบีสบตาหล่อน สมองโล่งว่างไปหมด นึกเพียงแค่คงเมาไม่ก็อารมณ์พาไป แต่คุณกำลังดึงดูดฉัน รู้ตัวไหม


      หืม..ยังไง


      สายตาคุณ ริมฝีปากคุณ รอยยิ้มคุณ แล้วก็เสียงแหบๆของคุณทุกอย่างเลยมั้งคะ


      คุณก็เหมือนกันคริสตอบ อาศัยจังหวะที่อีกคนเผยอปากพูดโน้มหน้าเข้าหาแล้วบดกลีบปากร้อนผ่าวของตัวเองลงไป ขบเบาๆเข้าที่ริมฝีปากล่างอย่างหยอกล้อ คราวนี้บีตอบรับได้ดีกว่าเดิม ปลายลิ้นอ่อนนุ่มเกี่ยวกระหวัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ดูเหมือนแค่จูบเดียวคงไม่พอ มือบางแสนซนเลยสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตตัวบางของคนตรงหน้า ลากนิ้ววนอยู่ตรงช่องท้องจนเจ้าตัวส่งเสียงประท้วงออกมา


      อ..อา คุณคริส


      ว่าไง


      เสียงทุ้มสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ บีปรือตาขึ้นมองทั้งที่ร่างแทบอ่อนระทวยลงไปกองกับพื้น อย่าทำ..ต ตรงนี้


      คอนโดคุณ หรอคะ?” หล่อนละจากไหล่ขาวเนียนแล้วช้อนตามอง ฝ่ายนั้นพยักหน้าคริสเลยคว้ากระเป๋ามาสะพายไวกับตัว ตกลงค่ะ บอกทางฉันด้วยนะ




           ทั้งสองคนมาถึงคอนโดหลังจากนั้นไม่นาน บีไม่รู้ว่าหล่อนเช็คบิลออกจากผับตอนไหนด้วยเพราะสติยังกลับเข้าร่างมาไม่เต็ม เลยทำได้แค่ประคองตัวเองที่เดินเซๆเข้ามานั่งเบาะข้างคนขับแล้วทำหน้าที่บอกทาง ทั้งที่ใบหน้าและตามตัวยังแดงระเรื่อจากสัมผัสก่อนหน้า

       

      ใจเย็นๆ..ได้ยินเสียงแหบพูดขึ้นเบาๆเมื่อเธอเริ่มเมาจนเดินไม่ไหว บีเดินเอียงจนต้องยึดไหล่บางของคริสเกาะเอาไว้ยามเดินเข้าลิฟต์ แต่เหมือนจะมือหนักไปหน่อย สายเดี่ยวเดรสดำเลยหลุดลงมาเสียข้างหนึ่งเผยให้เห็นผิวขาวๆของเจ้าตัว อย่าเพิ่งสิคะ..เด็กดี ชั้นไหน ห้องอะไรหื้ม?”

       

      บีขมวดคิ้วให้กับสรรพนามที่ถูกเรียก ชั้น4 ห้อง407 แล้วก็ฉันไม่เด็กซะหน่อย

       

      “407หรอ..หล่อนพึมพำเบาๆก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ น่าสนใจ


      คะ?”


      ฉันบอกว่าคุณน่าสนใจดี” พูดพลางก้าวเท้าพาตัวเองกับเจ้าของห้องออกมาจากลิฟต์ ร่างสูงยาวคอพับคออ่อนเสียจนคนเป็นแขกต้องประคองจนถึงหน้าประตู


      ถึงแล้วค่ะ ไขห้องไหวมั้ย


      ไหวสิ!” บีเถียงทันควันแล้วหยิบกุญแจขึ้นไขพาทั้งสองร่างเข้ามาในห้อง ฉันแค่เมา ไม่ได้พิการนี่คะ


      ก็ไม่ได้ว่าอะไร เป็นห่วงคุณต่างหากคริสพูดพลางมองไปรอบๆ ห้องนอนขนาดไม่กว้างนักตกแต่งด้วยสีขาวล้วน และบนฝ้าเพดานมีกล่องอินเนอร์เน็ตขึ้นสีแดงเด่นอยู่บ่งบอกว่าสัญญากำลังมีปัญหา "ไวไฟเสียจริงๆด้วย" หล่อนหัวเราะ หันไปมองเจ้าของห้องที่นั่งฟุบหัวพิงขอบเตียงอย่างอ่อนเพลีย "อย่าเพิ่งหลับสิคะ อยากให้ฉันมานอนด้วยเฉยๆหรือไงกัน"


      "ก็เหนื่อย เมาด้วย" ฝ่ายนั้นบ่นง้องแง้ง "ง่วงอะ เตียงมันนุ่ม"


      "แล้วปากฉันไม่นุ่มหรอคะ?" คริสแกล้งแหย่ ดึงตัวคนใกล้หลับขึ้นมาแล้วกดไหล่บางแนบลงบนเตียง หล่อนเท้าแขนเอาไว้ให้ตัวเองอยู่ด้านบน ก่อนจะใช้ลิ้นอุ่นๆตวัดเลียตรงใบหูอีกคนเล่นจนเธอสะดุ้ง


      "ฮื้ออ คุณคริส!"


      "โอเคค่ะ ในเมื่อคุณง่วงฉันก็จะทำให้คุณหายง่วงเอง"


      บีเพิ่งสังเกตุ เอาจริงๆก็คงเป็นเพราะเพิ่งรู้สึกตัวตื่น ร่างเล็กบอบบางในชุดเดรสสีดำตรงหน้าหล่อนไม่ได้ใส่บรา ยิ่งคริสโน้มตัวลงมาหาเธอ คอเสื้อแหวกกว้างยิ่งคว้านลึกไปจนเห็น-อะไรๆ-ของเจ้าตัวเสียหมด


      ซ่อนรูปชะมัด..


      "มองหน้าอกฉันทำไมคะ โรคจิตนะเรา" เหมือนจะจ้องนานไปหน่อยจนฝ่ายนั้นรู้ตัว บีเลยได้แต่ยิ้มแหยส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน


      "อยากมองก็ได้ ไม่ว่ากัน—แต่.." คริสไล่นิ้วไปตามใบหน้าคมไล่ลงมาที่สันกราม แล้วไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงเนินอก มือเรียวแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตช้าๆดึงมันออกไปจากตัว ก่อนจะดึงสายเดี่ยวตัวเองลงข้างหนึ่งให้ชุดหมิ่นเหม่จวนจะหลุด "..ให้ฉันเห็นของคุณด้วยนะคะ.."


           หล่อนปลดบราเซียลูกไม้สีดำสนิทของบีออกเป็นอย่างต่อมาพร้อมกับสายเดี่ยวอีกข้างที่หล่นตาม ฝังใบหน้าตัวเองลงกับทรวงอกขนาดพอดีตัวแล้วดูดดึงอย่างหยอกล้อ คนนอนราบเลยได้แต่ตัวสั่นเมื่อปลายลิ้นซุกซนสัมผัสส่วนอ่อนไหวไม่หยุดหย่อน คริสจูบเธอไล่ตั้งแต่หน้าผากลงมาถึงกลางลำตัว เขี้ยวเล็กๆฝังลงบนเนื้อเนียนจนเป็นรอยแดงจ้ำกระจายทั่วบีเอาแต่เม้มปากกลั้นเสียงทั้งที่ทรมานเต็มทน


      "ร้องออกมาเถอะค่ะ ฉันรู้ว่าคุณรู้สึกยังไง"


      อึก ไม่เอา..น่าอายจะตายไป....อ๊ะ!” เสียงทุ้มขาดช่วงก่อนจะหลุดครางออกมาในท้ายประโยคเมื่อปลายลิ้นซุกซนแตะเข้ากับยอดอกสีหวานอย่างไม่ทันตั้งตัว หล่อนใช้มือเคล้าคลึงทรวงอกอีกข้างไปพร้อมกันจนเธอเผลอหวีดร้องออกมา คริสครางพอใจในลำคอ ส่วนมือข้างที่ว่างอยู่ทำหน้าที่เลื่อนต่ำลงปลดซิปกางเกงยีนส์ช้าๆจนมันหลุดออกจากตัว



      บีเหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในตัวเดียวปกปิดร่างกาย ในขณะที่เดรสสั้นของคริสเองก็หลุดล่นลงมากองที่เอว


      สภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่



      ฉันจะถนอมคุณฉันสัญญาเอ่ยหนักแน่นทั้งเสียงหอบ ก่อนจะโน้มลงจูบกลีบปากชมพูระเรื่อแผ่วเบา ไล่ลิ้นอุ่นร้อนกวาดชิมความหวานในโพรงปาก ผละออกเว้นจังหวะให้หายใจแล้วเริ่มต้นใหม่ซ้ำๆ คริสเอาแต่หยอกเย้าเธอด้วยการสอดนิ้วเรียวคลึงวนอยู่กลางลำตัวแล้วชะงักออก


      ..เข้ามาเถอะค่ะ..อา ได้โปรด คุณคริส..คนอยู่ใต้ร่างเชิดหน้ากัดริมฝีปากสะกดกลั้นอารมณ์ บีปรือตา หอบหายใจถี่จวนเจียนจะไม่รับรู้สิ่งใด


      “—อ๊า!” หลุดเสียงครางออกมาดังลั่นเมื่อปลายนิ้วแทรกเข้ามาในตัวอย่างเร็วและแรง บีเม้มปากแน่น ค้างเกร็งอยู่แบบนั้น เจ็บจนแทบลืมหายใจไปชั่วขณะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำใสๆไหลออกมาจากตาตั้งแต่เมื่อไหร่


      ไม่เอาไม่ร้องไห้สิริมฝีปากอิ่มแนบลงกับใบหน้าอีกครั้ง คราวนี้หล่อนจูบซับน้ำตาเธอแล้วลากวนมาที่ริมฝีปากเบนความสนใจจากกลิ่นเลือดที่คาวคละคลุ้ง ความอ่อนโยนที่ได้รับเลยแบ่งเบาความเจ็บลงนิดหน่อย


      ฉันแพ้น้ำตาเด็กรู้ไหม... ทนหน่อยนะ แค่มดกัด


      บ้ามดที่ไหนกัดตรงนี้เล่า!” บีโวย


      บอกกี่ทีแล้วว่าไม่ใช่เด็ก เปลี่ยนมุกเถอะค่ะ


      อ้าว ไม่มุกหรอคริสหัวเราะ แช่นิ้วเอาไว้ให้อีกคนปรับตัวซักพักแล้วจึงค่อยขยับเข้าออกช้าๆปล่อยให้ร่างกายทำตามที่อยากทำ หล่อนส่งเสียงครางแผ่วในลำคอยามที่เล็บยาวของอีกคนจิกลงบนแผ่นหลังระบายอารมณ์


      "งั้นมดไม่กัดก็ได้" พูดพลางขบฟันลงบนท้องขาวเนียนของอีกคน "คริสกัดเอง"


      บีเกร็งหน้าท้อง มือกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ไปหมด สะโพกยกขึ้นตามแรงกระหน่ำจากด้านล่าง ก่อนบ่นออกมาเสียงแผ่ว "..หื่น.."


      "เรียบร้อยเกินไปมันน่าเบื่อนี่คะ ฉันเป็นแบบนี้...สนุกกว่าตั้งเยอะ


      คริสพูดทั้งที่ปากยังวนเวียนอยู่ตรงเนินอกพร้อมกับเร่งจังหวะมือถี่รัวขึ้น นิ้วเรียวถอนออกสุดปลายแล้วสอดเข้าไปอีกรอบแม้ร่างบางจะหลุดเสียงหวานทุกครั้งที่หล่อนขยับ ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เพิ่มความรัวเร็วจนเธอเกร็งกระตุก บีเชิดหน้าแล้วหวีดร้องสุดเสียง ผมยุ่งไม่เป็นทรงแผ่กระจายยามเธอเอนหัวลงกับหมอน หอบหายใจถี่รัว


      "..อือ..คริส.." บีเรียกชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบา "คุณคริส.." ใบหน้าแดงระเรื่อ เหมือนสมองปิดกั้นการรับรู้ชั่วคราว ทุกอย่างขาวโพลนไปหมด ครามรู้สึกถูกปลดปล่อยพร้อมกับบางอย่างที่เธอเสียไป—หรือไม่ก็อาจกำลังจะได้มา ตาฉ่ำปรือทอดมองภาพตรงหน้า เลือนลางเหลือเกินด้วยหยาดน้ำใสบนม่านตา บีเลยรวบรวมแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดยกมือสั่นๆของตัวเองขึ้นปาดน้ำตาแล้วมองคนตรงหน้าใหม่อีกครั้ง คริสส่งยิ้มมาให้เธอเหมือนเคย หล่อนทิ้งตัวลงนอนข้างเธอพลางเท้าคางหันหน้ามามอง 


           สายตาวาววาบราวกับหมาป่าในบทรักเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยแววตาอบอุ่น

           แม้บีจะเห็นความลุ่มหลงและเจ้าเล่ห์เล็กๆสะท้อนออกมาจากดวงตาสีนิลนั้นก็ตามที


      เลยตัดสินใจถามออกไปตรงๆ "มองอะไรคะ"


      "กำลังคิดอยู่ค่ะว่าเวลาคุณหมดแรงแบบนี้...มันน่ามอง" คริสดึงมือเธอไปกุม ลูบไล่ไปทีละนิ้วพลางพูดต่อ "เหมือนเสือสิ้นฤทธิ์"


      "ก็ไม่มีฤทธิ์ตั้งแต่แรกแล้วนี่"


      "ไม่จริง" หล่อนเถียง ยกยิ้มน้อยๆที่มุมปาก



      "คุณสิ้นฤทธิ์—ด้วยมือฉันต่างหาก"



      "นี่คุณ!" โดนอีกคนฟาดเข้าที่ไหล่ทันทีที่ประโยคสองแง่สองง่ามนั้นจบลง มันไม่เจ็บเท่าไหร่นักเพราะบีไม่มีแรงพอ ได้แต่นอนนิ่งๆให้อีกคนแกล้งเล่น บีเลยบ่นเบาๆแต่จงใจให้คนฟังได้ยิน "..ตกลงแล้วคุณเป็นคนยังไงกันแน่.."


      "อยากรู้หรอคะ" ฝ่ายนั้นสวนกลับ


      "ค่ะ ต่อให้ฉันอาจจะไม่ได้เจอคุณอีกเลย" เธอหลบสายตา หน้าเจื่อนลงนิดหน่อย


      "แต่ฉันเชื่อว่าเราจะได้เจอกันอีก" คริสยิ้ม แววตานิ่งจนเดาไม่ออกว่าคิดอะไรในใจ ก่อนจะพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างบางไว้อีกครั้ง ครั้งนี้ทุกการกระทำเป็นไปอย่างเชื่องช้าและอ่อนโยน


      "มีเวลาเหลืออีกตั้งนานก่อนเราจะจากกัน"



      .

      .

      "อีกครั้ง...ได้ไหม"










           บีตื่นขึ้นมาในเช้าวันอาทิตย์—ตามจริงมันก็ไม่เช้าเท่าไหร่นักเพราะนาฬิกาปลุกหัวเตียงบอกเวลาสิบโมงกว่า ความเจ็บปวดบริเวณส่วนล่างเป็นความรู้สึกแรกที่แล่นเข้ามา ยันตัวลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก ปวดหนึบที่ขมับและช่วงเอวไปพร้อมๆกันจนต้องล้มตัวลงนอนต่อ กวาดสายตาไปรอบๆอย่างคนไม่ตื่นดีนัก


      หันมองไปข้างกายก็เจอแต่ความว่างเปล่า


           มดเวลา

           คุณไปแล้วจริงๆ...


      มือแนบกับเตียงด้วยความรู้สึกโหวงๆในใจ บอกไม่ถูกว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไง แม้จะตกลงกันไว้แล้วว่าความสัมพันธ์และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ -แค่ผ่านมาพบกันแล้วจากไป- แต่บีกลับรู้สึกมากไปกว่าเส้นนั้นที่ขีดไว้


      บอกไม่ถูกรู้สึกดีกับทุกสัมผัสที่หล่อนให้มา

      อาจจะเพราะคริสเป็นคนแรกของเธอ


      แค่เสียดาย...เสียดายล่ะมั้ง


      เลิกคิดเรื่องหนักหัวแล้วยันกายขึ้นลุกใหม่ กัดริมฝีปากแน่นฝืนความเจ็บแปลบที่รู้สึกทันทีที่ขยับ ไล่สายตาสำรวจตัวเอง รอยแดงยังเป็นจ้ำอยู่ทั่วตัว แต่ร่างกายกลับสะอาดและอยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดาว่าคริสคงทำให้ตอนเธอเผลอหลับไป คิดแค่นั้นมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ก่อนสติจะกลับเข้าในวินาทีต่อมา


      บีส่ายหน้าแรงๆให้กับตัวเอง


      หยุดเพ้อเจ้อเถอะน่า

      หวังอะไรกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนแบบนี้



           กว่าจะลุกขึ้นจากเตียงได้ก็เกือบสิบนาที เดินกะเผลกขาเปิดประตูออกนอกห้องนอนแล้วเดินตรงไปยังโซนห้องครัว ตัดสินใจหาอะไรทำกินเองก่อนด้วยเพราะไม่มีแรงพอจะเดินลงไปข้างล่างซื้อขึ้นมากิน โชคดีที่มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่บนตู้ มาม่าซองเลยพอประทังชีวิตตัวเองไปได้อีกมื้อหนึ่ง


      ทุกอย่างเป็นไปอย่างยากลำบากเมื่อสภาพร่างกายไม่พร้อม น้ำร้อนเกือบลวกมือตอนเธอถือจานมาม่าเดินมาวางที่โต๊ะหน้าทีวี หย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาช้าๆพลางหลับตาแน่นเม้มปากกลั้นเสียงเจ็บ กินไปซักพักถึงได้เหลือบไปเห็นว่าโน๊ตบุ๊คตัวโปรดยังตั้งอยู่ที่เดิม บีวางตะเกียบลง ละจากการจัดการมื้อเช้าแล้วขยับตัวไปทำท่าจะหยิบมันมาไว้กับตัว


      แต่กลับมีบางอย่างแปลกไปจากเดิม


      โพสต์อิทสีเหลืองสะท้อนแสงที่ปกติวางอยู่หน้าทีวีถูกแปะอยู่บนฝาพับโน๊ตบุ๊ค มีลายมือหวัดๆที่ไม่ใช่ของเธอเขียนเอาไว้เพียงไม่กี่ประโยค กระดาษซ้อนทับๆกันอยู่เป็นปึก เธอตัดสินใจวางเครื่องลงแล้วหยิบมันขึ้นมาไล่อ่านทีละแผ่น


      ' WIFI-USERNAME : YOURFIRSTCRIS

      PASSWORD : 5072311 '


      บีขมวดคิ้ว ชื่อและรหัสที่ไวไฟห้องของใครซักคนปรากฎอยู่ในแผ่นแรก ที่สะดุดตายิ่งกว่านั้นคงเป็นคำว่าCRISในชื่อ อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ เธอแอบแย้งกับตัวเองว่าคนชื่อคริสคงไม่ได้มีคนเดียวในโลก


      ก่อนจะดึงแผ่นแรกแปะเอาไว้กับผนังแล้วก้มลงอ่านแผ่นต่อมา


      คราวนี้มันเป็นภาษาไทย—โดยลายมือเดิม


      ' ยาแก้ปวดอยู่ในถุง กินซะจะได้หายเจ็บไวๆ '


      และสิ่งที่เธอคิดไว้ในใจเริ่มเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นไปอีก บีมองเลยไปสุดโซฟา ถุงยาอยู่ตรงนั้นจริงๆอย่างที่เขียนบอกไว้ หัวใจเจ้ากรรมเผลอเต้นระรัวอย่างกังวล


      ..ใครกันล่ะที่จะรู้ว่าเธอเจ็บ ถ้าไม่ใช่หล่อน..


      ' เห็นว่าไวไฟคุณเสีย และฉันเองก็ไม่ใช่คนใจดำอะไร '


      ' ถ้าไม่รังเกียจ ใช้ไวไฟห้องข้างๆก่อนได้นะคะ '


      ตอนนี้โน๊ตบุ๊คหรืออาหารเช้าไม่ได้อยู่ในความสนใจเธอแม้แต่นิดเดียว

      สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือเจ้าของโพสต์อิทพวกนี้ต่างหาก


      ' ไม่ต้องเกรงใจว่าคุณจะแย่งไวไฟฉันใช้ กลางวันฉันนอน ไม่ค่อยได้ใช้หรอก '


      ' ฉันทำงานกลางคืน อืมม เจ้าของผับที่คุณเที่ยวเมื่อวานนั่นแหละค่ะ '


      มือบีสั่นขึ้นมาดื้อๆ แต่ก็ยังตัดสินใจอ่านต่อ


      ' แล้วก็...ขอบคุณสำหรับเมื่อวาน '


      ' ขอบคุณที่ยอมให้ฉันเป็นคนแรกของคุณ '


      บีอ่านไล่มาจนถึงแผ่นเกือบสุดท้าย สมองเริ่มประติดประต่อทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งหญิงสาวลึกลับข้างห้องและผู้หญิงเดรสดำที่อยู่กับเธอตลอดคืนก่อน มันคงเป็นเรื่องบังเอิญที่โชคดีที่สุดในชีวิตบี


      หล่อนคือคนเดียวกัน


      แทบจะวิ่งไปเคาะประตูห้องถัดไปเสียตอนนั้น ความดีใจมีมากกว่าความตกใจ มือบางดึงแผ่นก่อนหน้าแปะไว้ที่ผนังแล้วกวาดตาไล่มองแผ่นสุดท้าย ข้อความในแผ่นเขียนไว้ประโยคสั้นๆพร้อมกับรอยจูบสีเชอร์รี่ของเจ้าตัวตรงมุมกระดาษ


      รอยยิ้มกว้างปรากฎบนใบหน้าทันทีที่อ่านจบ



      ' Kiss me free Wi-Fi

      but next time

      i hope

      Cris me free girl-friend '


      ' หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก เร็วๆนี้นะคะ :P '


      คริส

      ผู้หญิงกลางคืน และไวไฟฟรีข้างห้อง


      #คริสบีฟรีไวไฟ




      _________________________

      รีดฟิคมีฟรีเอ็นซีนะคะ ฮี่ย์

      ปล.1 ย้ำอีกรอบว่าไม่ต้องแปะเมลล์ อย่ากดแบนก็พอ ฮือ555555

      ปล.2 ฝากบอกน้องบีด้วยค่ะว่าเลิกเด๋อเมื่อไหร่เราจะกลับไปแต่งบีคริส!

      ปล.3 อยากใช้ไวไฟคุณคริสมั่งต้องทำยังไงคะ._. #โดนน้องบีตบ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×